..Position..
Part #1
ณ คฤหาสน์ชิกันชิน่า เป็นคฤหาสน์ที่ใหญ่โต มีชื่อเสียงที่สุดและเป็นศูนย์กลางของเมืองชิน่า คฤหาสน์นี้มีอายุมากว่า 100 ปี ผ่านการครอบครองจากชนชั้นสูงมามากมายหลายรุ่น.. มาถึงปัจจุบันถูกปกครองด้วย “ท่านชายเอลวิน”ผู้สูงศักดิ์ มากไปด้วยความสามารถ เป็นที่รักของผู้คนในเมือง.. และรุ่นต่อไป..ก็คงเป็น “นายน้อยรีไวล์” ลูกชายเพียงคนเดียวของท่านชายเอลวิน ผู้มีนิสัยเฉยชา สุขุมเยือกเย็น นายน้อยมีทุกอย่าง ทั้งความสามารถ ทรัพย์สินและด้วยเสน่ห์ของคุณหนู จึงเป็นที่หมายปองของสาวๆในเมืองชิน่า แต่ว่าคุณหนูไม่มีแม้แต่จะชายตามอง...
.
.
“ นี่ๆ เธอดูนั่นสิ นั่นใช่นายน้อยรีไวล์รึเปล่าน่ะ”
“ใช่ๆ นั่นล่ะคุณหนูตัวจริงแน่นอนเลย มี “บอดี้การ์ดเอิร์ธ”ตามประกบด้วย”
“กรี๊ดดดด!! คุณหนูหล่อกว่าในรูปถ่ายซะอีกแน่ะ”
เสียงวี๊ดว๊าดของสาวๆในเมืองดังลั่นไปทั่ว เมื่อเห็นนายน้อยรูปงามวัย 17 ปี ก้าวเดินออกมากจากรถพร้อมบอดี้การ์ดคนสนิทในชุดสไตล์คุณหนู เสื้อเชิตลายทาง..กางเกงขายาวสีดำและเสื้อนอกสีดำที่นำมาคลุมบ่ากว้าง.. ถึงจะมองว่าวันนี้นายน้อยแต่งตัวธรรมดา แต่หน้าตาก็กินขาด... ยังไม่ทันจะได้ก้าวเดิน ก็ถูกรายล้อมด้วยผู้หญิงนับร้อยคนซะแล้ว เนื่องจากนายน้อยเป็นหนุ่มป็อปประจำเมือง มีหรือที่สาวๆทั่วทุกสารทิศจะไม่สนใจเขา แต่เขากลับเบื่อและรำคาญซะมากกว่า ที่ไปไหนมาไหนจะต้องมาโดนรุมล้อมและทนฟังเสียงวี๊ดว๊าดชวนแสบหู...
“ โฮ่ย.. ร้องเหมือนชะนีเจอตัวผู้ไม่มีผิด”
เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ที่ได้ถูกเรียกว่านายน้อย ถอนหายใจเฮือกใหญ่ คิ้วเรียวขมวดเป็นปม แสดงถึงอาการหงุดหงิกอย่างมาก ทั้งที่วันนี้กะว่าจะมาเดินเล่นชมนกชมไม้ เปิดหูเปิดตาซะบ้าง แต่กลับต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้ทำให้เสียอารมณ์ซะอย่างงั้น..
ชายหนุ่มผมทองมัดรวบร่างสูงใหญ่ในชุดบอดี้การ์ด ย่อตัวลงมาข้างๆเด็กหนุ่มร่างเล็ก ยกมือป้องปากข้างๆหูของคุณหนูผู้เป็นเจ้านาย
“ไม่เป็นไรนะครับนายน้อย อย่าพึ่งอารมณ์เสีย รออีกสักครู่นะครับ” เสียงทุ้มที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนเอ่ยประซิบข้างๆหูอย่างแผ่วเบา ก่อนจะยืนเต็มความสูง “ขอประทานโทษนะครับ คือว่าวันนี้นายน้อยรีไวล์มีภารกิจจะต้องไปสะสางน่ะครับ ขอร้องทุกท่านอย่าได้รบกวนการทำงานของนายน้อย และช่วยหลีกทางด้วยนะครับ” ชายหนุ่มพูดแก้สถานการณ์ด้วยเสียงนุ่มนวลพร้อมโปรยรอยยิ้มที่อ่อนโยน สยบทุกเสียงให้เงียบสงัด แล้วยื่นแขนแหวกความชุลมุนวุ่นวายของผู้คนอย่างสุภาพ..
“ขอบคุณมากนะครับ”
ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณตบท้ายแล้วเดินนำหน้าไปตามทางที่ตนแหวกออก โดยมีนายน้อยรีไวล์เดินตามหลังไปติดๆ ทิ้งให้ผู้คนจ้องมองแผ่นหลังของพวกเขาด้วยความอึ้ง ผู้คนต่างเคลิบเคลิ้มกับรอยยิ้มของบอดี้การ์ดหนุ่มสุดเท่ แล้วพากันวี๊ดว๊าดร้องเรียกชื่อบอดี้การ์ดหนุ่มที่โปรยเสน่ห์ใส่ไปเมื่อครู่...
“ ท่านเอิร์ธขา~ ฉันรักคุณณณ...” .“เมื่อกี้เขาส่งยิ้มให้ฉันด้วยล่ะ >////<”. “ท่าเอิร์ธเท่ที่สุดเลย..”
ไม่ใช่แค่นายน้อยรีไวล์คนเดียวที่เป็นหนุ่มป๊อปประจำเมืองชิน่า แต่เอิร์ธก็ไฟแรงในหมู่สาวๆรองลงมาจากนายน้อยรีไวล์ ทั้งรูปร่างที่สมส่วนสันทัด ทั้งรอยยิ้ม...
...ด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น...อ่อนโยน...เจิดจรัสเหมือนดังดวงตะวันยามเช้า..
“เฮ้อ... รอดมาได้ซักที” เด็กหนุ่มผมสีนิลถอนหายใจ ดูเหมือนว่าจะอารมณ์ดีขึ้นมานิดนึงแล้ว บอดี้การ์ดหนุ่มยิ้มจางๆ เพราะโล่งอกที่นายน้อยไม่อารมณ์เสียจนอาละวาดเหมือนครั้งก่อน แค่ขัดใจนิดๆหน่อยๆก็อาละวาดจนคฤหาสน์แทบแตกเป็นเสี่ยง เกิดข่าวลือเสียๆหายๆไปทั่วเมือง โดยท่านชายเอลวินผู้เป็นพ่อเทศน์ไปยกใหญ่ เพราะท่านชายเอลวินเป็นคนที่นึกถึงชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลเป็นอันดับแรกเสมอ...
“นายก็ไฟแรงไม่ใช่เล่นนี่...ไม่ลองคบใครบ้างล่ะ” คำพูดของเด็กหนุ่มร่างเล็ก ทำเอาบอดี้การ์ดหนุ่มสดุ้ง! พวงแก้มแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “ผ.. ผมก็ยังไม่เจอคนที่ใช่น่ะครับ ผมก็เชื่อว่าสักวันผมจะต้องได้เจอเขาครับ.. “ บอดี้การ์ดหนุ่มหน้าตาเข้าขึ้นหล่อเลือกได้ แต่ก้อมีเหตุผลที่คล้ายๆกับนายน้อยรีไวล์ คือต้องการหาคนที่เข้ากับเขาได้ คนที่รักเขาจากใจจริง หากว่าสักวันได้เจอคนๆนั้น เขาจะขอสาบานว่าจะรักและปกป้องดูแลเธอ.. แม้ว่ามีอุปสรรค.. หากเธอนั้นเป็นคนที่ใช่ เขาก็พร้อมจะทำทุกอย่าง เพื่อเธอ ...
“แล้วนายน้อยล่ะครับไม่คิดจะเปิดใจคบกับใครบ้างหรอครับ มีผู้หญิงให้เลือกตั้งมากมายนะครับ” บอดี้การ์ดหนุ่มผมทองถามเด็กหนุ่มผู้เป็นเจ้านาย... “ฉันไม่สนใจผู้หญิงพวกนั้นหรอก พวกนั้นก็แค่ชอบฉันที่ภายนอกเท่านั้น นายคิดว่าคนพวกนั้นน่ะหรอ ที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของฉันในอนาคตน่ะ..” เสียงทุ้มตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นจริงจัง เขาไม่ชอบคนที่ชอบเขาที่ ฐานะ ทรัพย์สิน ชื่อเสียง หรือหน้าตา เขาต้องการคนที่ชอบเขาที่เขาเป็นเขา แต่การที่เขาจะหาคนแบบนั้นได้ช่างยากเหลือเกิน เพราะสมัยนี้ใครๆก็ต้องการเงิน อยากมีหน้ามีตาในสังคมกันทั้งนั้น อีกทั้งท่านชายเอลวิน พ่อของเขา.. อยากให้แต่งงานกับผู้หญิงที่ฐานะเท่าเทียมกัน ..มีผู้หญิงมากหน้าหลายตาที่ท่านชายเลือกมาให้เขา กี่คนๆ ก็โดนคุณหนูรีไวล์ปฏิเสธร่ำไป.. ต่อให้พูดกรอกหูซักกี่ครั้งว่า “ลูกต้องเชื่อฟังพ่อ.. ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่พ่อเลือกให้ ” ในเมื่อขึ้นชื่อว่านายน้อยรีไวล์...ไม่มีทางยอมใคร..
.
.
.
.
ฤดูหนาวกำลังจะมาถึงเหล่าพ่อบ้านและแม่บ้าน ต่างก็ทำงานอย่างขะมักเขม้น เพื่อเตรียมรับมือกับดูเหมันต์ที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ฤดูหนาวรอบนี้รุนแรงกว่าที่ผ่านมา...
ชายหนุ่มอายุ 25 ปี ในชุดพ่อบ้านกำลังกวาดพื้นอยู่ที่ห้องครัวอย่างทำมัดทะแมง นัยตาสีเขียวสดในมองเศษขยะและเศษฝุ่นมากมายที่กวาดมาได้ ใบหน้าหวานเปียกชุ่มเหงื่อ เนื่องจากทำงานมาทั้งวัน มือเรียวยกขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผากลวกๆ ตั้งแต่เช้ายันเย็น ไม่ได้พักผ่อนเลย...
“อ๊ะ! ยังไม่ได้ล้างจานเลยนี่นา”
ชายหนุ่มนึกขึ้นได้.. เขายังมีงานทีต้องทำอีกอย่าง..เด็กหนุ่มรีบโกยขยะที่อยู่ตรงพื้น นำไปทั้งขยะ จากนั้นเขาก็เดินไปที่ซิงค์ล้างจานที่เต็มไปจานจานกองพะเนิน.. ชายหนุ่มยื่นมือจะบิดก๊อกน้ำ ทันใดนั้น..
“เอเลน ..ไม่ต้องทำหรอก เดี๋ยวฉันทำเอง..”
เสียงหวานของหญิงสาวดังขึ้นจากหน้าประตูที่อยู่ทางขวามือของชายหนุ่มที่ห่างกันแค่ประมาณ 5 เมตร ชายหนุ่มหันขวาไปมองหญิงสาวที่เรียกชื่อของเขาเมื่อครู่..
“ มิคาสะ.. เธอไปซ่อมหลังคาเสร็จแล้วหรอ?”
“อืม เสร็จแล้วล่ะ”
“แล้ว... ทำสวนเสร็จรึยัง...ตัดฝืนล่ะเราต้องเก็บฝืนไว้ใช้ก่อไฟในฤดูหนาวนี้นะ”
“เสร็จหมดแล้วล่ะ”
ชายหนุ่มหน้าหวานซักถามเพื่อนสาวคนสนิท เจ้าของชื่อ “มิคาสะ” ในชุดแม่บ้านใส่เสื้อเชิตสีขาวแขนยาวคุลมทับด้วยเสื้อกั๊กสีดำ ถุงน่องยาวสีขาวภายใต้กระโปรงสั้นครึ่งต้นขาสีดำทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีขาวสะอาด โดยปกติแล้วคฤหาสน์หลังนี้จะให้พ่อบ้านทำงานอยู่ที่ระดับชั้น 1 ถึงชั้น 3 อาจจะขึ้นไปทำงานชั้นสูงๆได้เป็นบางครั้งบางคราว เพราะส่วนใหญ่มีแต่งานที่ต้องใช้กำลังมาก ส่วนแม่บ้านจะให้ทำงานตั้งแต่ชั้น 4 ถึงชั้น 6 มีเพียงมิคาสะเท่านั้นที่ได้ทำงานอยู่ชั้นเดียวกับพ่อบ้าน เพราะเธอสามารถทำงานหนักๆได้ไม่แพ้ผู้ชายทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นงาน ตัดฝืน ซ่อมรถ ซ่อมหลังคา ทำสวนหรือแม้กระทั่งการแบกของหนักๆได้เป็นตันๆ อย่าไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย
“เธอไปพักผ่อนเถอะนะ ส่วนเรื่องล้างจานเนี่ย ฉันทำแทนให้ ” หญิงสาวอาสาทำงานแทนชายหนุ่มเพื่อนสนิท ตั้งแต่พ่อและแม่ของเอเลนตายไป เธอก็เป็นคนสุดท้ายในครอบครัวที่แหลืออยู่.. ชายหนุ่มพยักหน้า แล้วหันหลังเดินไปนั่งที่เก้ากี้ไม้ตัวเล็กๆในห้องครัว หญิงสาวเดินมาที่ซิ้งค์ล้างจาน เธอถกแขนเสื้อให้ขึ้นไปอยู่ระดับศอก เพื่อไม่ให้แขนเสื้อเปียกขณะที่ล้างจาน จากนั้นก็ไม่รอช้าลงมือล้างจานที่กองพะเนินในซิงค์อย่างคล่องแคล่ว
“เธอไปพักผ่อนเถอะนะ ส่วนเรื่องล้างจานเนี่ย ฉันทำแทนให้ ” หญิงสาวอาสาทำงานแทนชายหนุ่มเพื่อนสนิท ตั้งแต่พ่อและแม่ของเอเลนตายไป เธอก็เป็นคนสุดท้ายในครอบครัวที่แหลืออยู่.. ชายหนุ่มพยักหน้า แล้วหันหลังเดินไปนั่งที่เก้ากี้ไม้ตัวเล็กๆในห้องครัว หญิงสาวเดินมาที่ซิ้งค์ล้างจาน เธอถกแขนเสื้อให้ขึ้นไปอยู่ระดับศอก เพื่อไม่ให้แขนเสื้อเปียกขณะที่ล้างจาน จากนั้นก็ไม่รอช้าลงมือล้างจานที่กองพะเนินในซิงค์อย่างคล่องแคล่ว
“เอเลนน่ะ... คงจะเหนื่อยมากสินะ ที่ต้องมาทำงานคนเดียวแบบนี้..” มิคาสะถามพร้อมรอยยิ้มจางๆที่หามองยากจากสาวหน้านิ่งอย่างเธอ.. มิคาสะหลงรักเอเลน ตั้งแต่เล็กตนโต เธอไม่เคยแปรเปลี่ยนความรู้สึกของเธอที่จงรักภักดีต่อเอเลนไปให้ใคร แม้เธอจะรู้อยู่แก่ใจว่าเลนไม่เคยรักเธอ... ขอเพียงแค่เธอได้อยู๋ใกล้ๆ ได้ปกป้อง.. ได้ดูแล.. ได้ช่วยแบ่งเบาภาระของเอเลนบ้างเธอก็มีความสุขมากแล้ว แต่เธอเชื่อว่าสักวัน..เอเลนจะหันมามองเธอและให้ความรักตอบแทนเธอบ้าง ในสักวันหนึ่ง...สักวัน...เอเลนจะเป็นต้องของเธอ ...
“อืม ก็หน่อยหน่อยล่ะ ตั้งแต่อาร์มินถูกเลื่อนขั้นไปเป็นท่านเอกราชทูตของเมืองชิน่า ก็ไม่มีใครมาช่วยทำงานเลย ส่วนแจนกับโคนี่.....ชิ! พูดถึงแล้วหงุดหงิดชะมัด พวกนั้นหายหัวไปไหนกันหมด ไม่มาช่วยงานกันบ้างเลย” เอเลนบ่นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด คิ้วหนาขมวดเป็นปม ช่างน่าหงุดหงิดจริงๆ พ่อบ้านไม่ได้มีคนเดียวแต่กลับแอบอู้งาน ทิ้งให้เอเลนทำงานงกๆอยู่คนเดียว แต่โชคดีที่วันนี้นายน้อยรีไวล์ไม่อยู่ ถ้านายน้อยรู้เข้า โทษอย่างต่ำของเจ้าพวกนั้น ...ก้อคงโดนตัดเงินเดือนไปครึ่งหนึ่งแล้ว..
โดยปกติแล้วอาร์มินจะมาช่วยเอเลนประจำ แต่วันหนึ่ง เกิดเหตุบังเอิญขึ้น เมื่อ 6 ปีที่แล้วเอกราชฑูตของเมืองชิน่าเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตกลางทางที่ไปเจรจากับต่างประเทศ ท่านชายเอลวินไม่ยอมเสียหน้า จึงต้องหาคนไปแทนอย่างเร่งด่วน แลเห็นว่าอาร์มินเป็นคนมีความรู้ และฉลาดในระดับอัจฉริยะ จึงลากอาร์มินไปเจรจาแทนท่านทูตคนเก่า ทีแรกอาร์มินไม่มั่นใจเอาซะเลย แต่พอถึงเวลาจริงๆก็แก้สถานการณ์ได้ดีเยี่ยม นอกจากท่านชายเอลวินจะเลื่อนขั้นให้อาร์มินมาเป็น เอกราชทูตของเมืองชิน่าแล้ว ยังให้อาร์มินเป็นอาจารย์สอนหนังสือให้กับนายน้อยรีไวล์ด้วย จนถึงปัจจุบัน.. อาร์มินก็งานยุ่งมากๆ ยุ่งซะจนไม่มีเวลามาเยี่ยมเพื่อนเก่าอย่างเอเลนและมิคาสะเลย นานๆทีจะได้เจอหน้ากัน ทั้งๆที่อยู่คฤหาสน์หลังเดียวกันแท้ๆ เพราะอาร์มินทำงานอยู่ที่ชั้น 5 เอเลนและมิคาสะซึ่งทำงานอยู่ชั้นล่างก็มีงานยุ่งไม่แพ้กัน และคฤหาสน์นี้ก็มีกฎให้พ่อบ้านที่อยู่ชั้นล่าง หากไม่จำเป็นก็ห้ามขึ้นไปบนชั้น 4 ถึง 6 เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาชู้สาวซึ่งเป็นปัญหายอดฮิต...
.
.
เสียงรถสปอร์ตดังชัด ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แม้จะอยู่ในห้องครัวกก็ตาม เป็นสัณญาณให้เอเลนรับรู้... “กลับมาแล้ว!.. เขากลับมาแล้ว!” นัยน์ตาสีเขียวเบิกกว้าง เสียงทุ้มหวานกล่าวออกมาด้วยความดีใจ ชายหนุ่มไม่รอช้า...รีบลุกจากเก้าอีกไม้และมุ่งตรงไปที่หน้าคฤหาสน์ด้วยท่าทีเร่งรีบ “เอเลน! จะไปไหนน่ะ!” เสียงนุ่มของมิคาสะตะโกนไล่หลังชายหนุ่มเพื่อนสนิท โดยที่มือเรียวล้างแก้วน้ำใบสุดท้ายอยู่ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว.. เพื่อนหนุ่มของเธอวิ่งไปไกลเสียแล้ว...
เธอไม่เคยวิ่งตามเอเลนทัน...ได้แต่เฝ้ามองแผ่นหลังของเอเลน.. เฝ้ามองมาตลอด...
เปรี๊ยะ... เปรี๊ยะ.....
.
.
เพล้ง!!!!!
“ชิ!! ไอ้เด็กจอมหยิ่งเอ้ย!!”
ใบหน้าสวยสบถถ้อยคำด่าทอนายน้อยรีไวล์ผู้เป็นนายเหนือหัว โดยที่มือกำเศษแก้วที่แตกอยู่ในมือไว้แน่น เลือดสีแดงสด... หยดลงซิงค์ล้างจานหยดแล้ว..หยดเล่า ความเจ็บที่มือไหลผ่านมาถึงขั้วหัวใจ..แต่เธอเจ็บใจยิ่งกว่า ที่ชายหนุ่มผู้เป็นที่รักรีบออกไปต้อนรักคุณหนูที่เธอแสนเกลียดชังแล้วทิ้งเธอไว้เสียดื้อๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้นัดกันไว้ว่าจะไปจ่ายตลาดด้วยกันแท้ๆ มิคาสะรำพึงรำพันในใจ ด้วยความแค้น
“เมื่อไหรกันเอเลน... เธอจะตาสว่าง...และเปิดใจยอมหันมามองฉันซักที!!!”
TBC
็
เปิดบล็อกใหม่ค่ะ มินล์จะค่อยๆทะยายลงทุกๆตอนให้หมดนะคะ 555
แนวคฤหาสน์ก็มาาา ติดตามค่ะๆ ><
ตอบลบ