วันพุธที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

[Fic Attack On Titan ] Levi x Eren : Position Part # 12

Position

Part #12



สตรีสวมแว่นวิ่งอย่างรวดเร็วออกมาจากคฤหาสน์แล้วเข้าไปในสวนหย่อมทางด้านหลังโดยมีชายหนุ่มวิ่งไล่ตามมาพลางตะโกนเรียกชื่อเธอเป็นระยะๆ แต่ทุกครั้งที่หญิงสาวได้ยินเสียงนั้นหัวใจก็สั่นระรัวพยายามยกมือป้องหูไม่ให้ได้ยิน
ไม่ยอมให้หัวใจไขว้เขวหันหลังกลับไปได้ คุณหนูฮันซี่ คุณหนีผมทำไมครับ!! ผมทำอะไรให้คุณโกรธหรอครับ!!!”เสียงเรียกของอาร์มินยังดังอยู่เรื่อยๆ ผลักดันให้ฮันซี่รีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นไปอีกต้นไม้ใบหญ้าทำให้บุรุษร่างใหญ่ที่ตามอยู่รู้สึกคันไปทั้งตัวเมื่อผิวกายได้รับการเสียดสี ทางวิ่งของฮันซี่เป็นทางลัดในการเดินทางไปสวนหย่อมได้เร็วขึ้นแต่มันก็เป็นทางที่รกรังมากไม่แพ้กัน เธอวิ่งไปไกลและลึกมากโดยไม่รู้ตัว จนเธอเดินเข้ามาถึงส่วนหย่อมที่ถูกจักแต่งอย่างสวยงามสำหรับแขกคนสำคัญที่เข้ามาเยือน  


ร่างบางหยุดวิ่ง มือสองข้างจับเข่าแล้วพ่นลมหายใจหอบแรงๆ ความเหนื่อยจากการวิ่งที่ไม่คิดชีวิตของเธอ คุณหนูที่กินๆนอนและอ่านหนังสือกับเลี้ยงสัตว์อยู่ในคฤหาสน์ไปวันๆอย่างเธอไม่เคยออกวิ่งเร็วและไกลขนาดนี้มาก่อน มือเรียวยกขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผากและคราบน้ำตาลวกๆ ใบหูสดับฟัง เสียงของท่านอาร์มินเงียบไปแล้ว” หญิงสาวยืนเต็มความสูงมือขวาวางทาบอกซ้ายเบาๆ รู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นรัวราวกับกลองมโหระทึกก็ไม่ปาน


อึก!!!


มือเรียวยกขึ้นปิดจมูกพลัน เมื่อได้กลิ่นเหม็นเน่าลอยปะทะจมูก กลิ่นเหมือนมีอะไรตายสักอย่าง ในหัวของเธอพลางคิดว่าเป็นสัตว์อย่างเช่น หนู สุนัข หรือนก เธอพยายามหาที่มาของกลิ่นด้วยการมองไปรอบๆตัวทั้งมือที่ปิดจมูกอยู่


กลิ่นมาจากข้างหน้า...


ร่างเพรียวบางเดินไปตามเส้นทางข้างหน้า ซึ่งมันเป็นอย่างที่คิดจริงๆ กลิ่นนั่นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนยังไงแปลกๆชอบกล พะอืดพะอมราวกับจะอาเจียนออกมาได้เสียงอย่างนั้น ฮันซี่เดินมาถึงพุ่มไม้หนึ่งซึ่งเธอสังเกตผ่านแว่นทรงกลมใส แมลงหวี่และแมลงวันตอมอยู่รอบๆพุ่มไม้ ทำให้เธอพอจะเดาได้ว่ากลิ่นนั่นต้องเป็นตรงนี้แน่ๆ มือเรียวสอดผ่านพุ่มไม้ช้าๆ..


สวบ!!!!

เฮือก!!!!


.


.



“ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนก่อนไหมเอเลน” เสียงหวานใสถามพร้อมกับสีหน้ากังวลของหญิงสาวในชุดแม่บ้านหน้าห้องพักของพ่อบ้านเอเลนพร้อมกับยื่นแผงยาลดไข้ให้ ไม่เป็นไร ฉันอยากอยู่คนเดียว” เสียงทุ้มติดหวานเอ่ยตอบทั้งสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก ดวงตาสีมรกตหลุบลงเล็กน้อย หัวใจของพ่อบ้านหนุ่มไม่ได้อยากจะทำแบบนี้ ไม่อยากทำร้ายจิตใจของนายน้อยผู้รักยิ่ง


“จริงๆแล้ว นายน้อยไม่ได้รักเขาจริงสักหน่อย”


เอเลนพยายาคิดย้ำตัวเอง แต่สิ่งที่รีไวล์แสดงออกมาเมื่อคืนนี้มันก็ทำให้เขาได้รู้สึกถึงความรักที่อีกฝ่ายมีให้ แต่ทว่าอีกใจหนึ่งกลับคิดว่าเป็นเพราะอารมณ์ความใคร่เท่านั้น มันเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์ยอมทุกอย่างเพื่อมัน ซึ่งคิดว่าอาจจะไม่ใช่....


การที่ยอมออกมาจากห้องแล้วกลับมาในที่ที่คนอย่างเขาควรจะอยู่ นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับนายน้อยและตัวเขาเอง ถ้าลืมนายน้อยได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น จะได้ไม่ต้องเจ็บปวด ไม่ต้องอดทนกับความรักที่ไม่อาจห้ามใจ นายน้อยก็จะได้แต่งกันคนที่คู่ควรและมีความสุข ซึ่งไม่ควรจะเป็นพ่อบ้านที่ช่างต้อยต่ำคนนี้ ขอบใจที่ช่วยพาฉันมาส่งนะ เธอไปทำงานเถอะ ฉันดูแลตัวเองได้” เอเลนกล่าวพร้อมรอยยิ้มจางๆทั้งที่ใจเศร้าสร้อย ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องไป รอยยิ้มที่ไม่ได้ออกมาจากใจจริงของเอเลนมิคาสะนั้นดูออกได้อย่าง่ายดายโดยไม่ต้องคิด รอยยิ้มที่ทำให้เธอไม่ได้รู้สึกดีใจเมื่อได้เห็นมัน


ทำไมมันช่างรู้สึกหดหู่อย่างนี้นะ


ร่างเพรียวบางเดินออกมาจากพี่พักคนงาน พื้นรองเท้าสีน้ำตาลเหยียบย้ำพื้นหญ้าสีเขียวแก่  ใบหน้าสวยรับกับดวงตาคมสีนิล ที่ในตอนนี้รู้สึกเต็มไปด้วยความหดหู่ กังวล เมื่อครู่ที่ได้ใกล้ชิดเอเลนแต่ทำไมรู้สึกเหมือนช่างไร้จิตวิญญาณ  เลื่อนลอยแฝงความเศร้าระคน ใบหน้าหวานที่เคยเปี่ยมไปด้วยความมุ่นมั่นจะสดใสอยู่ตลอดเวลานั้นหายไป ดวงตาสีมรกตขุ่นมัวคาดเดาไม่ออกว่าชายหนุ่มผู้เป็นดั่งดวงใจกำลังคิดอะไรอยู่ ท่าทีของเอเลนทำเอามิคาสะรู้สึกไม่สบายใจไปด้วย


“หรือว่าเอเลนจะรัก...” เธอครุ่นคิดถึงเด็กหนุ่มผู้แข็งกระด้างและเยือกเย็นที่ถกเถียงกับเธอเมื่อครู่ในห้องส่วนตัวของเขา ตลอดเวลาหลายปีที่เข้ามาทำงานในคฤหาสน์ชิกันชิน่าเอเลนก็มีท่าทีแปลกๆขึ้นไปทุกวัน ไม่ว่ารีไวล์จะต้องการอะไร แค่กระดิกนิ้วก็วิ่งเข้าหา รับใช้ปรนนิบัติอย่างดีซะจนมันมากกว่าคำว่าดีเยี่ยมด้วยซ้ำ แม้บางครั้งนายน้อยยังไม่ทันได้สั่งก็รู้ใจไปเสียหมด ถ้าเกิดว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆเธอจะทำยังไงดี...


“ม..ไม่จริง เอเลนไม่ได้รักไอ้เด็กบ้าจอมเอาแต่ใจนั่น แค่เสียใจที่สูญเสียความบริสุทธิ์ของตัวเองไปก็เท่านั้น ไม่ได้รัก... ไม่มีทางรักหรอก” มิคาสะกุมขมับบอกกับตัวเอง สะบัดหัวไล่ความคิดนั้นออกไปจากสมอง สันดานดิบเถื่อนโหดเหี้ยมไหลผ่านความคิด อิจฉาริษยาและหวงแหนของรัก ทำให้ความคิดในการฆ่าผุดขึ้นมาออกครั้ง แต่เธอยังพยายามอดกลั้นมันไว้ไม่ให้มันควบคุมเธอได้ ต้องสงบใจไว้... มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด... ยิ่งถ้าคือฆ่าคนๆนั้นไปการที่ตำรวจจะตามดมกลิ่นเธอจะเป็นอะไรที่ง่ายขึ้น


ครั้งที่ฆ่าแจนกับโคนี่ยังไม่มีใครสงสัยเท่าไร บวกกับที่เจ้าพวกนั้นชอบอู้งานมากกว่าสามวันต่อสัปดาห์ทำให้เป็นเรื่องที่คุ้นชินสำหรับคนงานและพ่อบ้านคนอื่นๆ และเป็นเพราะสถานการณ์เป็นใจทำให้เธอฆ่าคนถ่อยต่ำอย่างแจนและโคนี่ได้ง่ายยิ่งเสียกว่าปอกกล้วยเข้าปาก และแค่เธอฝังศพนั้นลงดินไปก็ไม่มีใครรู้แล้ว แต่ถ้าเป็นรีไวล์ลูกชายของเจ้าของคฤหาสน์ชิกันชิน่าที่คุ้มกะลาหัวเธออยู่นี้ มันคงไม่ง่ายอย่างงั้น


“เอ๊ะ!เดี๋ยวเหมือนฉันจะลืมอะไรไป”


.


.


.


ศพ...


กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!


ทันทีที่ห้วงความคิดนึกถึงสิ่งที่สำคัญที่รัดคอเธออยู่นั้นก็มีเสียงหวีดร้องของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นจากทางสวนหย่อมที่เธอแอบซ่อนศพไว้ ชักให้ใบหน้าสวยหันไปตามเสียงหวีดร้องด้วยความตกใจพร้อมกับดวงตาสีนิลที่เบิกกว้างสุดขีด ใบหน้าที่ซีดเผือกร่างกายแข็งเกร็งจนตัวเย็นไปหมด ฝ่ามือเรียวเปียกชื้นเหงื่อและสั่นเกร็งไปด้วยความกลัว


“โถ่เอ้ย!!!”


มิคาสะสบถคำ มือทั้งสองข้างกำแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อพลางขบฟันแน่นแสดงสีหน้าเกรี้ยวกราด แต่หัวใจกลับสั่นระริกเป็นลูกนกที่หนาวจนจับไข้ มิคาสะ เสียงอะไรน่ะ” เสียงทุ้มหวานแหบพร่าดังจากด้านหลัง  ดวงตาสีนิลตวัดหันไปมองเห็นเพื่อนชายใบหน้าหวานยืนเกาะประตูห้องพร้อมส่งสายตามาให้เธอ คำถามด้วยสีหน้าสงสัยกับอ่อนเพลียระคน เหมือนเสียงคุณหนูฮันซี่เลย ฉันหูอื้อไม่ค่อยได้ยินน่ะ เอเลนถามเสียงค่อยพร้อมลูบใบหูเบาๆ


“ไม่มีอะไรหรอกเอเลน คงเป็นเสียงของคนงานน่ะ เธอไม่สบายอยู่เข้าไปพักผ่อนเถอะนะ เดี๋ยวฉันไปดูเอง” มิคาสะปรับสีหน้าให้เรียบเฉยเป็นปกติก่อนพูดตอบ เอเลนพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินกลับเข้าห้องไปพร้อมกับใบหน้างงงวยสงสัย เหมือนเสียงของคุณฮันซี่จังเลย...ไม่ใช่มั้งหูคงจะเพี้ยนไป” เอเลนส่ายหน้าไล่ความคิดออกไปจากหัว สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือกินยาแล้วก็นอนพัก จะได้หายไข้เร็วๆแล้วไปทำงานต่อ ไม่อยากเอาเปรียบมิคาสะอยู่แบบนี้ แค่นี้ก็รู้สึกแย่มากแล้วที่ต้องให้เพื่อนอย่างเธอมารับภาระหน้าที่แทน


ต้องให้ผู้หญิงมาทำงานแทน... น่าอายชะมัด


มือเรียวบางดันเม็ดยาในแผงออกมาสองเม็ดแล้วบรรจงยัดเข้าปาก ก่อนกระดกน้ำแล้วกลืนลงคอ เอเลนถอนหายใจแรงๆกลับสัมผัสได้ถึงลมหายใจของตัวเองที่ร้อนระอุราวกับไอน้ำจากกาต้มน้ำที่ลอยขึ้นมาตอนที่น้ำเดือดไม่มีผิด ร่างสูงโปร่งค่อยๆทิ้งสะโพกกลมกลึงลงบนเตียงแล้วเอนกายให้ศรีษะวางลงบนหมอนนุ่ม ชายหนุ่มหน้าหวานเอื้อมมือหยิบผ้าห่มสีขาวหนานุ่มข้างกายมาคลุมตัว แต่ทันทีที่จับผ้าฝ้ายสีขาวขึ้นมาก็ถึงกับต้องหยุดชะงัก


ดวงตาสีมรกตทอดมองชิ้นส่วนของเสื้อคลุมสีดำราคางแพงขาดเวิ่นที่หยิบติดมือมาตอนที่เอื้อมหยิบผ้าห่ม ที่คอเสื้อสังเกตเห็นตัวอักษะที่ปักด้วยด้ายสีน้ำตาลว่า “Levi” สายตาฝ่าฝางพยายามเพ่งมองตัวอักษรให้ชัดๆจนแน่ใจว่านี่เป็นชื่อของคนที่เขารัก คนที่ร่วมหลับนอนด้วยกันเมื่อคืนนี้ นี่เป็นเสื้อของรีไวล์ที่ใส่ก่อนเข้ามาในห้อง และคงจะเป็นฝีมือของเขาที่ฉีกมันขาดโดยไม่ต้องสงสัย “นายน้อย…” เอเลนเอ่ยแผ่วๆก่อนจะกระตุกเศษผ้าที่มีกลิ่นของเด็กหนุ่มเข้ามาสูดดมลึกๆ


กลิ่นหอม ของชาและกาแฟที่เขาชงให้ดื่มทุกวัน ติดตัวจนกลายเป็นกลิ่นหอมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร...


อ้อมแขนอรชอรรวบกอดผ้าสีดำไว้แน่น เปลือกตาปิดลงช้าๆพร้อมกับใบหน้าหวานที่ซุกลงกับเศษผ้าซึ่งมันมีกลิ่นของคนรักที่ใจถวิลหาแล้วหลับไปพร้อมกับความอ่อนเพลียของร่างกายที่ต้องการการพักผ่อนเพื่อกักเก็บพลังงานอย่างมาก


“นายน้อย..ผมรักคุณ รักมาก... ขอโทษนะครับ ผมไม่อยากทำแบบนี้เลย แต่ความรักของเรามันต่างชั้นกันเกินไป”


            .

“มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ..”   


.


.


.


.


.


ตุบ!!!!


“ ศ…ศพ” เสียงหวานสั่นเทาไปด้วยความตกใจและหวาดกลัว พลางขาเรียวยาวอ่อนเปลี้ยจนทรุดนั่งลงกับพื้น ดวงตาสีน้ำตาลไหม้มองผ่านแว่นแก้วใสไปที่ศพสองร่างตรงหน้า ซึ่งตายในสภาพที่แสนอนาถตา มีแต่เลือดสีแดงอาบทั่วร่างไร้วิญญาณ มองดูก็รู้ว่านี่คือการฆาตกรรม การฆ่าที่โหดเหี้ยมเกินความเป็นมนุษย์ เน่าเฟะและส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว ค...ใครกัน...ท...ทำเรื่อง เลวร้ายได้ ข...ขนาดนี้” ฮันซี่พูดตะกุจะกักและน้ำเสียงที่สั่นเครือไปด้วยความตกใบหน้าของหญิงสาวซีดเซียว ร่างบางเย็นเยือกจนสั่นไปทั้งตัวจนถึงขั้วหัวใจ เธอมองเลือดที่ติดฝ่ามือเรียวทั้งสองข้างตอนที่เธอแหวกพุ่มไม้ เลือดสีแดงยังไม่แห้งสนิท ออกสีคล้ำจนเกือบจะเป็นสีดำ


สวบ!!!


“คุณฮันซี่!!! อะ... เสียงทุ้มหวานเอ่ยขึ้น ร่างสูงใหญ่ที่กระโดดผ่านพุ่มไม้ยืนค้างอยู่ด้านหลังของฮันซี่ เสียงเรียกที่เงียบหายไปนั่นก็เป็นเพราะแผนที่ชาญฉลาดของเขาเอง ในเมื่อรู้สึกได้ว่ายิ่งเรียกหญิงสาวก็ยิ่งวิ่งเร็วขึ้นจึงตัดสินใจเงียบเสียงแล้วเดินตามรอยเท้าไปแต่ก็ต้องรีบบึ่งตรงมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของฮันซี่


เมื่อดวงตาสีฟ้าแลเห็นร่างไร้วิญญาณสองร่างที่กองอยู่ตรงพุ่มไม้ กลิ่นเหม็นเน่าโชยเข้าจมูกของอาร์มิน ทำให้มือแกร่งยกขึ้นปิดจมูกพลัน ชายหนุ่มมองต่ำลงมายังคุณหนูฮันซี่ที่นั่งทรุดอยู่บนพื้นหญ้ารกรัง คุณฮันซี่ เป็นอะไรรึเปล่าครับ ร่างใหญ่ช้อนวงแขนอรชรให้ลุกขึ้นยืน แต่พอร่างบางกำลังจะตั้งขาก็อ่อนเปลี้ยแทบจนแทบจะทรุดลงนั่งอีกครั้ง


“น...นี่มันอะไรเนี่ย ใครกันที่ทำแบบนี้” อาร์มินพูดเบาๆพลางเพ่งมองร่างของศพและใบหน้าที่บิดเบี้ยวจนดูไม่ออกว่าเป็นใคร แต่ก็พอจะเดาได้ว่าเป็นพ่อบ้าน แจน และโคนี่ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานเก่าของเขาสมัยก่อนที่จะมาเป็นเอกราทูตซึ่งคิดว่าคุณหนูฮันซี่ที่เขาประคองไว้ในอ้อมแขนอยู่นี้ก็คงรู้จักเช่นกัน ท่าน..อาร์มินคะ ช่วย..พอฉันกลับไปก่อน ได้ไหมคะ” หญิงสาวพูดทั้งน้ำเสียงอ่อนแรง ร่างสูงโปร่งสั่นเกร็งจนไม่สามรถที่จะยืนไหว อาร์มินเห็นว่าอาการไม่ค่อยดีเสียแล้วจึงค่อยๆพยุงร่างอรชรพาเดินกลับไปที่คฤหาสน์ คิดอยู่ในใจว่าถ้ากลับไปคงต้องรีบไปแจ้งท่านชายเอลวินและแจ้งตำรวจให้มาชันสูตรศพเพื่อหาตัวฆาตกรให้ได้


ดวงเนตรสีนิลสะท้อนร่างของเพื่อนสนิทอย่างอาร์มินที่พาคุณหนูฮันซี่เดินกลับไปที่คฤหาสน์จนลับตาจนแน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายคงไม่อาจรู้ตัว ร่างสูงเพรียวบางเดินออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่พลางทอดมองศพที่ชโลมโลหิตและรอยแผลและเฟะทั่วร่างกายที่เธอเป็นคนสร้างขึ้นมากับมองด้วยสายตาแฝงด้วยความสมเพช ดวงตาคมสวยกวาดมองไปรอบๆเพื่อหาหลักฐานที่ใช้มัดตัวเธอได้ รอบๆนี้ ซึ่งมันไม่มี เพราะเธอจัดการเก็บกวาดมันหมดแล้วด้วยความสามรถและประสบการณ์ที่ชำนาญเรื่องแบบนี้เป็นอย่างดี


มิคาสะรู้ว่าสิ่งที่จะเป็นหลักฐานมัดตัวเธอในพื้นที่นี้ไม่มี รวมทั้งอาวุธอย่างมีและค้อนที่เธอใช้สังหารสังคนนี้ก็จัดการทำความสะอาดและซ่อนไว้ในล็อกเกอร์เป็นอย่างดี แต่ทว่าสิ่งที่จะเป็นปากคำให้กับตำรวจได้เป็นอย่างดีก็คือเจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลออกส้มที่มาแอบซุ่มดูเธอในเวลานั้น ถึงจะรู้ดีว่าเด็กสาวคนนั้นไม่เห็นหน้าเธอก็ตาม แต่ยังไงก็คงบอกรูปร่างและลักษณะโดยรวมได้ และสิ่งนั้นก็จะสาวมาถึงตัวเธอและมันคงไม่ดีแน่ถ้าเธอต้องเข้าคุก ทั้งชีวิตไม่เคยห่างจากเอเลนนานเกิน วันเลยสักครั้ง ถ้าต้องไปอยู่ในห้องตารางห้องแคบๆมืดๆเป็นสิบๆปี หัวใจเธอจะทนได้ยังไง


ฉันจะไม่ยอมให้มันเกิดเรื่องแบบนั้นแน่....


มือเรียวสวยล้วงประเป๋าเสื้อด้านในเพื่อหยิบบางอย่างออกมา เส้นผมสีน้ำตาลปนส้มเส้นเล็กๆสองสามเส้นในมือสากที่แปดเปื้อนเลือดมามากมายและการทำงานหนัก มิคาสะหัวเราะกระหึ่มในลำคอพร้อมโรยเส้นผมลงบนพื้นหญ้าใกล้ๆศพ เพื่อเป็นการโยนความผิดให้แก่นกน้อยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ถึงในใจจะรู้ดีกว่าอย่างอาร์มินฉลาดพอที่จะรู้ได้ว่าคุณหนูเพทราไม่สามารถทำแบบนี้ได้และก็คงไม่มีทางเชื่อมโยงเรื่องต่างๆมาที่เธอแน่นอน เพราะยังไงอาร์มินก็เป็นเพื่อนสนิทของเธอมาตั้งแต่เด็กและเชื่อใจเธอมากที่สุด แต่สิ่งที่ทำลงไปเมื่อครู่ก็เป็นการสร้างความปั่นป่วนให้แก่พวกตำรวจได้อย่างดีทีเดียว หญิงสาวเดินออกไปจากพื้นที่นั้นพร้อมกับแสยะยิ้มสยองด้วยความสบายใจและสะใจระคนกัน


หึ! ถ้าคิดว่าเก่งจริงก็หาหลักฐานมาจับฉันให้ได้สิ พวกหน้าโง่เอ๊ย!!


.


.


.


“ห๊า!!! นายว่ายังไงนะอาร์มิน มีศพคนตายอยู่ในสวน ล...แล้วเป็นพ่อบ้านในคฤหาสน์ของฉันด้วย!!!” ชายวัยกลางคนพูดเสียงดังด้วยความตกใจสุดขีดในห้องทำงานส่วนตัว ร่างใหญ่กำยำที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำตัวใหญ่กุมขมับแน่น ความเครียดเริ่มรุมเร้าทำเอาไมเกรนเริ่มกำเริบขึ้นสมอง บวกกับวัยขึ้นเลขสี่แล้วยิ่งทำให้สุขภาพมะรอมมะร่อไม่ค่อยจะดี  


“อย่าเอ็ดไปครับท่านชาย หากใครมาได้ยินเข้าจะเรื่องใหญ่นะครับ”อาร์มินพูดปรามเจ้านายผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ รวมถึงสวนหย่อมที่มีซากศพนอนตายอย่างอนาถ เอลวินถอนหายใจแรงๆพร้อมกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อทุบโต๊ะทำจากเหล็กดังปังๆๆ แทบจะบ้าตายอยู่แล้ว เรื่องงานก็ยุ่งจนแทบจะไม่มีเวลาออกจากห้องด้วยซ้ำทั้งเรื่องของรีไวล์กับเอเลน แล้วยังจะมีเหตุฆาตกรรมภายในบ้านอีกเอลวินคิดในใจพลางช้อนตาไปหาอาร์มินเชิงถ่ายทอดความรู้สึก


“จากที่ผมสันนิษฐาน ฆาตกรน่าจะมีความโกรธแค้นกับแจนและโคนี่ไม่ใช่น้อยเลยครับ เพราะสภาพของศพนั้นดูๆแล้วสื่อไปทางระบายอารมณ์เสียส่วนใหญ่ เพราะด้วยรอยฝาด กระแทกจากของแข็งและรอยของมีคมจ้วงแทงนั้นมีมากมายกว่าปกติ รวมถึงการชิ้นดึงส่วนต่างๆของร่างกายออกมา หากว่าเพียงแค่ต้องการฆ่าให้ตายไม่น่าจะต้องทำถึงขนาดนี้ อีกอย่างก็คือ ฆาตกรคนนี้ยังรู้อีกด้วยว่าที่สวนหย่อมนั่นเป็นที่ที่ไกลจากตัวคฤหาสน์พอสมควรและไม่ค่อยมีคนเข้าไปเท่าไรนักถ้าหากไม่มีแขกพิเศษจริงๆ จึงเป็นที่ที่แทบจะไม่อาจได้ยินเสียงกรีดร้องเลยก็ว่าได้” อาร์มินจับคางครุ่นคิดพร้อมพูดถึงการสันนิษฐานของตนซึ่งอีกฝ่ายก็นั่นตั้งศอกประสานนิ้วฟังอย่างตั้งใจ ด้วยปัญญาที่ชาญฉลาดของอาร์มินทำให้เอลวินมีความหวังขึ้นมาในการหาตัวฆาตกรในโหดที่กล้าทำเรื่องชั่วในภายในรั้วคฤหาสน์ชิกันชิน่า


“นายกำลังจะบอกฉันว่า... ฆาตกรคือคนภายในงั้นหรอ”

“ก็ประมาณนั้นมั้งครับ สองศพนั้นตายเมื่อคืนนี้แน่นอนเลย จากเลือด ดูแล้วเหมือนว่ายังไม่แห้งเท่าไรแต่ก็ออกสีหมองคล้ำ ประมาณเวลาที่ผมคาดเดาตรงกับงานเลี้ยงต้อนรับท่านชายไนล์กับคุณหนูเพทราพอดี ในช่วงนั้นทุกคนในคฤหาสน์รวมอยู่ในห้องโถง เสียงเพลงที่บรรเลงอยู่ในห้องก็กลบเสียงกรีดร้องได้เป็นอย่างดี แสดงว่าเขาคนนั้นจะต้องเป็นคนที่รับรู้ข่าวสารเรื่องการจัดงานเลี้ยงบวกกับรู้สถานที่ไกลๆที่ฆ่าได้สะดวกนั้นก็ต้องมีเพียงคนในบ้านเท่านั้นแหละครับ ผมคิดอย่างงั้น” เอลวินพยักหน้ารับเบาๆ ดวงตาสีฟ้าประเปรยริ้วรอยมองไปที่เอกราชทูตหนุ่มที่ดูเยือกเย็นสุขุมกว่าทุกครั้ง ถึงอาร์มินจะเก่งไหนแค่ว่า ยังไงก็คงไม่พ้นปรึกษากับตำรวจอยู่ดีซึ่งท่านชายเอลวินผู้หวงชื่อเสียงยิ่งกว่าลูกในไส้ไม่มีทางให้เรื่องนี้แพร่ออกไปเด็ดขาด  


“ยังไงก็ตาม เรื่องแบบนี้ก็ให้ใครรู้ไม่ได้ทั้งนั้น แล้วจะทำยังไงล่ะจะสืบกันเพียงสองคนก็เป็นเรื่องที่ยากนะ เพราะฟังจากที่นายพูด เหมือนว่าคนคนนี้จะมีประสบการณ์มากเลยทีเดียว ฉันคิดว่าคงจะเป็นพวกมืออาชีพ..” อาร์มินชะงักเล็กน้อยกับคำพูดของท่านชายเอลวิน พลางนึกคิดเกี่ยวกับคนคนหนึ่งที่จะช่วยสืบคดีเรื่องนี้ได้ก่อนจะพูดออกไป ไม่ต้องห่วงครับ... ผมรู้จักตำรวจ FBI อยู่คนหนึ่ง ผมได้รู้จักและสนิทสนมกับเธอตอนที่ไปเจรจากับพ่อค้ารายใหญ่ในประเทศอเมริกา เธอชื่อว่า ริโกะ ครับ เป็น FBI ชั้นแนวหน้าของประเทศเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่เป็นตำรวจแต่เธอยังเป็นหมอที่เก่งมากอีกด้วย เธอคนนี้ชื่นชอบและมากความสามารถในเรื่องการสืบคดีฆาตกรรม ผมมั่นใจว่าเธอจะต้องช่วยเราได้ ตอนนี้เธอมาพักร้อนที่เมืองชิน่านี่เอง ผมคงจะต้องขอเสียมารยาทรบกวนเวลาพักร้อนของเธอ แต่ผมก็มั่นใจนะครับว่าเธอไม่ปฏิเสธ และเธอจะยอมเก็บเป็นความลับแน่นอนถ้าหากว่าเงินหนาพอ”


เอลวินเบิกตากว้างเล็กน้อยเมื่อได้ยินเรื่องเกี่ยวกับความเก่งกาจของเธอคนนี้ เป็นทั้ง FBI แนวหน้าและหมอ ที่สำคัญเธอก็มาพักร้อนที่เมืองชิน่าอีกด้วย เอลวินดีใจจนเผลอหลุดยิ้มออกมาเสียไม่ได้ “อาร์มิน นายไปเรียกตามตัวเธอคนนี้มาที่นี่ใน วันนี้เลย ส่วนเรื่องเงินไม่ต้องห่วงต้องการเท่าไรฉันก็ไม่มีปัญหาขอแค่ยอมปิดเป็นความลับและตามหาฆาตกรที่โหดเหี้ยมนั้นมาให้ได้ก็พอแล้ว”


TBC

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น