Position
Part #4
... เด็กหญิงผมยาวสีนิลอายุราวๆ 10 ขวบ วิ่งไปถาม ตรอกซอยที่คับแคบ...ทุกทางแยกเธอจะหันมองซ้ายที มองขวาที ...เหมือนเธอกำลังตามหาใครอยู่..เธอวิ่งไปเรื่อยๆจนร่างกายเริ่มจะอ่อนแรง... ทันใดนั้น..
ผั๊ว!!.. ผั๊ว!!..ผั๊ว!!...
สิ่งที่เด็กหญิงพบก็คือ...ภาพของเด็กชายเพื่อนสนิทกำลงโดนรุมทำร้าย จากพวกเด็กรุ่มเดียวกัน....เด็กชายดวงตาสีมรกตพยายามสู้...แต่ด้วยร่างกายที่อ่อนแอและด้วยความที่อีกฝ่ายมีพวกมากกว่า .... ทำให้ไม่สามารถสู้กับเด็กพวกนั้นได้…
“เฮ้ย! พอแล้วน่าเดี๋ยวมันก็ตายหรอก..” เด็กชายคนหนึ่งพูดขึ้นท่ามกลางกลุ่มเพื่อนของตนที่กำลังรุมซ้อมเด็กหนุ่มที่นอนกองอยู่กับพื้น… ใบหน้าหวาน ช้ำเลือดช้ำหนอง ร่างบางนอนหดเกร็งตัวสั่นเทาเพราะความเจ็บปวด เป็นสภาพที่ดูไม่ได้เอาซะเลย... “ชิ! มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ....สำหรับไอ้คนที่ทำเป็นอวดเก่งอย่างเจ้าเอเลน... แกต้องโดนพวกเราอัดไปอีกซักกี่ครั้งกันถึงจะหลาบจำ…” เด็กชายร่างใหญ่คนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าที่ดูสะใจที่ได้เห็นเอเลนล้มลงไปนอนขดอยู่กับพื้น..”แกก็รู้ดีว่าสู้พวกเราไม่ได้ ก็ยังจะทำเป็นเก่ง!!..ไหนบอกว่าจะมาเอาคืนไงล่ะ..ฉันก็เห็นพูดแบบนี้มาสิบครั้งแล้ว..” เด็กชายร่างใหญ่พูดต่อพร้อมยกเท้าเหยียบกดลงไปที่หัวของเด็กชายที่ขดตัวเกร็งอยู่บนพื้น พร้อมขยี้ฝ่าเท้าไปมา... ทันใดนั้น...
ผั๊ว!!!..
เด็กชายร่างใหญ่รู้สึกโดนต่อยเสยคางด้วยแรงมหาศาลจากใครบางคน.. ด้วยหมัดที่รุนแรงทำให้เด็กชายร่างใหญ่ลอยลิ่วออกไป...เด็กชายรู้สึกได้ว่ามีบางอย่าไหลออกมาจากคาง..เด็กชายใช้มือขวาปาดใต้คางก็พบว่า... “ค..คางแตก” เด็กชายตาเบิกกว้างด้วยความตกใจเลือดสีแดงสดเลอะฝ่ามือใหญ่ สายตาช้อนมองขึ้นไปมองผู้ที่กระทำตนเมื่อครู่...เมื่อเงยหน้าขึ้นก็ถึงกับต้องผงะ....ได้พบว่าเด็กหญิงร่างสูงยืนอยู่ใกล้เขาเสียแล้ว
“ม..มิคา...”
ผั๊ว!!!..
เด็กหญิงไม่รอให้เด็กชายได้พูด...เธอต่อยอัดเข้าไปที่เบ้าตาซ้ายของเด็กชายอย่างเต็มแรง...ดวงตาตี่เล็ก ช้ำเป็นสีม่วง.... เด็กชายคนอื่นๆที่กำลังยืนอึ้งกับการกระทำของเด็กหญิงเบื้องหน้า...เด็กชายอันธพาลคนอื่นๆรีบวิ่งเข้ามาพยุงเด็กชายร่างใหญ่ผู้เป็นหัวโจกที่นั่งขาสั่นเกร็งอยู่กับพื้นออกไปจากพื้นที่นั้นอย่างรวดเร็ว...เมื่อแก๊งเด็กชายอันธพาลวิ่งออกไปไกลแล้ว เด็กหญิงร่างสูงเรือนผมยาวสีนิล รีบวิ่งเข้ามาพยุงร่างเด็กชายเรือนผมสีน้ำตาลเพื่อนสนิทที่นอนครางโอดโอยอยู่ด้านหลัง
“ ไปมีเรื่องกับพวกนั้นอีกแล้ว...” เด็กหญิงพูดเสียงเรียบ พลางมองใบหน้าหวานครึ่งซีกของเพื่อนชาย.. เด็กชายขมวดคิ้ว .... เจ็บใจที่ไม่เคยสู้ได้ ทั้งๆที่ใจอยากจะอัดเด็กพวกนั้นให้ร่วง...แค่นั้นก็ยังทำไม่ได้...ยังต้องให้มิคาสะมาช่วยทุกครั้งไป....ทั้งๆที่เป็นผู้หญิงยังทำให้เด็กพวกนั้นกลัวจนวิ่งหัวซุกหัวซุนได้....แต่เราเป็นผู้ชายกลับทำอะไรไม่ได้เลย...
ปึก!!!..
เอเลนปัดมือเรียวของเพื่อนสาวที่กำลังพยายามพยุงร่างบางของเขาให้ลุกขึ้น..เด็กสาวเบิกตาเล็กน้อยที่ถูกเพื่อนชายที่เธอเป็นห่วงปฏิเสธการช่วยเหลือของเธอด้วยท่าทางดื้อดึง... “ไม่ต้อง!!! แค่นี้ฉันลุกเองได้... อ...โอ๊ย!!” เด็กชายใช้แขนดันพื้นเพื่อพยุงตัวลุกขึ้นแต่ว่า.... ร่างกายของเอเลนในตอนนี้นั้นบอบช้ำมากไม่มีเรี่ยวแรงถึงขนาดจะลุงขึ้นยืนยังทำไม่ได้....
มันน่าเจ็บใจจริงๆ... ทำไมฉันถึงอ่อนแอขนาดนี้
“ เธอเห็นว่าฉันอ่อนแอขนาดนั้นเลยรึไง!!! ถึงต้องมาช่วยฉันทุกครั้ง!!....ทำไมจะต้องมาคอยดูแล!!! ฉันไม่ใช่น้องของเธอนะ เลิกทำเป็นว่าฉันอ่อนแอซะทีจะได้ไหม!!! ” เด็กชายวัย 10 ขวบนั่งชันเข่าพลางช้อนสายตามองเด็กหญิงที่ยืนอยู่ ...เด็กชายตะตอกใส่เพื่อสาวที่หวังดี ที่พยายามพยุงตัวเขาลุกขึ้นอีกครั้ง …. เด็กสาวถึงกับผงะ .. เธอรู้สึกเสียความรู้สึกนิดๆที่เพื่อนชายผู้เป็นที่รักไม่เห็นความหวังดีของเธอ..แต่ว่าต่อให้เขาด่าว่าเธออย่างไร เธอก็ปฏิญาณไว้แล้วว่ายังไงจะ ดูแลปกป้องเอเลนไม่ว่าจะยังไงก็ตาม “ เอเลนถูกทำร้ายซะขนาดนี้ จะให้ฉันยืนเฉยๆไม่ให้เธอเข้าไปช่วยเธอได้ยังไงกัน….” มิคาสะขมวดคิ้วเธอเว้นวรรคคำพูดครู่หนึ่ง “ฉันจะไม่เข้ามาช่วยเธออีกแต่เธอต้องสัญญา...สัญญากับฉันสิ ...เอเลน ...ว่าต่อไปนี้เธอจะไม่ไปมีเรื่องกับใคร ..ไม่ว่ายังไงก็ตาม...เธอจะไม่ตอบโต้ ...เธอจะอดทน...นะ เอเลน...สัญญากับฉันนะ ” มิคาสะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจริงจัง เธอไม่อยากให้เอเลนไปมีเรื่องกับใคร เธอไม่อยากเห็นเอเลนเจ็บตัว ไม่อยากเห็นเอเลนในสภาพแบบนี้ ... เอเลนครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนตอบ
.
.
.
“ ก็ได้... ฉันสัญญาก็ได้....ฉันสัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย...ฉันจะไม่ไปมีเรื่องกับใครก็ได้...เธอก็ต้องสัญญาด้วย... ตราบใดที่ฉันยังรักษาสัญญาอยู่ เธอก็ห้ามเข้ามายุ่ง หรือเข้ามาช่วยฉัน ไม่ว่าฉันจะเป็นจะตายยังไงก็ตาม ห้ามเอาตัวเธอเข้ามายุ่งกับเรื่องของฉันเด็ดขาดเด็ดขาด!! ได้ไหมล่ะ..” เด็กชายยิ้มมุมปากพลางช้อนมองเพื่อสาวที่ยืนอยู่ สายตาที่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่น ..... เด็กหญิงยิ้มจางๆก่อนตอบกลับไป..
“ ได้สิ” เด็กหญิงตอนสั้นๆ นี่คือสัญญาของเอเลนกับเธอ เธอไม่มีวันลืม...รอยยิ้มแรกของเอเลนที่ส่งให้เธอในวันนั้น..อยากเห็นมันบ่อยๆ...อยากให้เอเลนยิ้มให้เธออีกครั้ง...
ฉันสัญญา....และไม่มีทางลืมมัน... สัญญาของฉันและเธอ... เอเลน ....
.
.
.
.
.
.
.
กลับมา ณ ปัจจุบัน....หญิงสาวในห้องนอนที่มีแสงสลัวๆ... เธอนั่งอยู่บนขอบเตียงเพียงลำพัง...ท่ามกลางความมืดมิด..มีเพียงแสงจันทร์ส่องผ่านหน้าต่าง..เรือนผมสีดำปรกใบหน้าสวย..น้ำใสๆไหลอาบแก้ม....ย้อนนึกกลับไปถึงภาพที่เห็นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน...ภาพของคนที่เธอรักถูกทำร้ายอย่างทารุณ น่าเจ็บใจ..เธอผู้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่บ้านที่แข้งแกร่งที่สุด...ไม่สามารถปกป้องคนรักได้ เพราะมีเส้นบางๆที่เธอเรียกว่า “สัญญา” มากั้นไว้ ... ในความคิดของเธอ ... เธอคิดว่า.. เอเลนรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้กับเธอมาโดยตลอด... ตั้งแต่วันนั้นเอเลนไม่เคยมีเรื่องชกต่อยกับใครอีกเลย แม้จนถึงวันนี้ที่ได้เข้ามาทำงานในคฤหาสน์ชิกันชิน่าก็ตาม...ทั้งๆที่มีผู้คนจงเกลียดจงชังและคอยหาเรื่องอยู่รำไป เขาก็ยังคงรักษาสัญญา
แม้ในสถานการณ์แบบนั้นเธอยังรักษาสัญญาของเรา..เอเลน… ...เพราะฉันนั้น ...ฉันก็อยากจะรักษาสัญญานั้นเหมือนกัน....แต่ว่า...
มิคาสะกำหมัดแน่น ..เธอเม้มปากแน่นเป็นเส้น ดวงตาสีนิลหรี่ลงเล็กน้อย...“ขอโทษนะ..เอเลน ..แต่ฉัน ไม่สามารถทนเห็นหน้าพวกของมันบนโลกนี้ได้อีกต่อไป..” เธอพูดด้วยเสียงแผ่วเบา คนที่มาทำร้ายคนรักของเธอได้อย่างโหดร้าย และสันดานแย่เสียยิ่งกว่าสัตว์.... ทนไม่ได้หรอก.. คนแบบนั้น....
เอเลนนั้นรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเธอ...นั่นคือความคิดของมิคาสะ แต่อันที่จริงแล้ว...ในตอนนั้นชายหนุ่มที่เธอหมายปองไม่ได้นึกถึงสัญญาที่ให้ไว้กับเธอเลยแม้แต่น้อย.. เขาลืมไปแล้ว....ลืมไปนานแล้วด้วย....แต่เขากลับคิดว่า ถ้าเกิดเผลอทำอะไรไปล่ะก็ นายน้อย...จะผิดหวัง.... นายน้อยรีไวล์ต่างหาก..ที่เป็นคนที่เอเลนนึกถึงในทุกช่วงเวลาที่เขาคิดอยากจะมีเรื่องกับใคร....ไม่ใช่คำสัญญาของมิคาสะ ... เธอเข้าใจผิด... ความเข้าใจผิดของเธอในครั้นี้อาจจะทำให้ทุกอย่างพลิกผันไป..อาจจะกลับเป็นแบบเมื่อก่อนไม่ได้อีกแล้ว...
.
.
.
.
.
.
.
.
ชายหนุ่มในชุดพ่อบ้านค่อยๆลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืดมิด ตอนนี้เขามึนหัวอย่างมาก ทุกอย่างรอบตัวเบลอไปหมด ดวงตาสีเขียวมรกตลืมตากว้างขึ้นทีละนิดๆ..
“ค่ำแล้ว..งั้นหรอ” เอเลนก็ใช้มือดันพื้นเพื่อทรงตัวลุกขั้นนั่ง แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อด้านในขึ้นมาเช็ดคราบเลือดบนใบหน้าออกจนหมด ....เอเลนค่อยๆลุกขึ้นยืน..มือเรียวกุมท้องเอาไว้....ด้วยแรงแตะที่ได้รับอย่างมากมายทำให้ช้ำใน..เอเลนร้องครางเบาๆเพราะความเจ็บปวด..ผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดถูกเก็บเอาไว้ในกระเป๋าเสื้ออย่างมิดชิด...ชายหนุ่มค่อยๆ เดินโซเซกลับไปตามทางเรื่อยๆ..จนมาถึงห้องโถงในคฤหาสน์..
“เอเลน…”
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังทำให้พ่อบ้านหนุ่มต้องหันไปมอง “นายน้อยรีไวล์ ... คุณหนูฮันซี่” นัยน์ตาสีเขียวพร่ามัว แต่ก็พอมองเห็นนายน้อยร่างเล็กและสตรีใส่แว่นที่นั่งจบชาอยู่ด้วยกันบนโซฟา...เมื่อครู่เอเลนเดินผ่าน แต่ไม่ทันสังเกตเห็น....ดวงตาสีเทาคู่คมมองเอเลนตั้งแต่หัวจรดเท้า... แล้วที่เด่นชัดที่สุดก็คือรอยแผลที่หน้าผาก...แผลใหญ่ไม่ใช่เล่นเลย... “หน้าผากไปโดนอะไรมา...” นายน้อยเอ่ยเสียงเรียบ รอยแผลใหญ่ขนาดนั้นไม่ถามก็คงไม่ได้ แล้วด้วยสภาพที่ข้างสะบักสะบอมเหมือนไปทำอะไรมา..ก็อดที่จะถามไม่ได้ ....
เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นบนใบหน้าหวานของเอเลนที่มีรอยแผลที่หน้าผาก พ่อบ้านหนุ่มยกมือขึ้นมาปิดที่แผลพลัน... “อ...เออ.. คือว่า ...ผม..หกล้อมหัวฝาดพื้นน่ะครับ” เอเลนพูดโกหกออกไปเพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องขึ้น ถ้านายน้อยรู้เข้าล่ะก็มีหวังเรื่องใหญ่แน่ๆ... “หกล้ม!!! แค่หกล้มทำไมแผลใหญ่ขนาดนี้ล่ะ แน่ใจนะว่าแค่หกล้มธรรมดาๆน่ะ” คุณหนูฮันซี่พูดถามด้วยดวงตาเบิกกว้าง รอยแผลแบบนี้จะต้องเป็นการกระแทกที่รุนแรงมากๆถึงจะเกิดขึ้นได้ ไม่น่าใช่การหกล้มธรรมดา ...ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กเนื่องจากคิดคำแก้ตัวไม่ออก น้อยนายรีไวล์ขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย “ โฮ่ย... ทีหลังนายก็ระวังหน่อยละกัน” เด็กหนุ่มผมสีนิลตัดรองทรงสูงเอ่ยกับชายหนุ่มในชุดพ่อบ้าน....
ระวังหน่อยสิ นายน้อยคนนี้เป็นห่วงนายนะ.. รู้ตัวรึเปล่า.....
“ฉันว่าเหมือนนายจะไม่ค่อยสบายนะเอเลน ไปพักผ่อนหน่อยดีกว่าไหม” สตรีใส่แว่นเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยเอเลนซึ่งเปรียบเสมือนเพื่อนคนหนึ่ง... “ จะดีหรอครับ ผม..” “ไปเถอะ..ฉันอนุญาต” เด็กหนุ่มผมสีนิลพูดตัดบท อนุญาตให้พ่อบ้านหนุ่มได้ไปพักผ่อนที่ห้อง เมื่อพูดจบก็หันไปจิบชาอย่างหน้าตาเฉย... “ค...ครับ” พ่อบ้านหนุ่มกลับหลังหันแล้วเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง...ดวงตาคู่คมเหล่สายตาไปที่แผ่นหลังบอบบางของพ่อบ้านหนุ่มที่เดินออกไปโดยที่มือถือถ้วยชาค้างไว้... “ อ...แฮ่มๆ” สตรีใส่แว่นแกล้งกระแอมเสียงดังๆ ให้เด็กหนุ่มที่อยู่เบื้อหน้ารู้ตัวโดยที่กลั้นหัวเราะเอาไว้ “ชาในถ้วยเย็นหมดแล้ว..รีไวล์ ...คิกๆ” ฮันซี่แกล้งลากเสียงยาวแซวเด็กหนุ่มเพื่อนสนิทที่กำลังหน้าแดงโดยที่ไม่รู้ตัว..เด็กหนุ่มรู้สึกว่าหน้าร้อนขึ้น....จึงแก้อาการเขินด้วยการกระดกซดชาในถ้วยอย่างรวดเร็ว... โดยลืมไปว่าชาที่เพิ่งกระดกซดไปอึกใหญ่เมื่อครู่เพิ่งชงมาใหม่ สดๆร้อนๆ ...น้ำชาร้อนๆแทบพุ่งออกมาจากปาก ทำเอาเด็กหนุ่มหน้านิ่งแทบคุมอาการไม่อยู่...
เมื่อฮันซี่ได้เห็นอย่างนั้น ก็กลั้นหัวเราะไม่อยู่..เสียงหัวเราะดังลั่นไปทั่วคฤหาสน์ เสียงหัวเราะซึ่งไร้ซึ่งความเป็นกุลสตรี.... “ย...ยัยเพี้ยน เธ..อ หลอกฉัน!!!” เด็กหนุ่มพูดไม่เป็นภาษา..มือแกร่งรีบยกขึ้นมาปิดปากที่ร้อนจนบวมเป่งของตนไว้ ...เด็กหนุ่มผู้ได้ถูกเรียกว่านายน้อยรู้สึกอายที่เผลอทำให้เพื่อนสาวคนสนิทหัวเราะเมื่อเห็นตนในสภาพแบบนี้จนแทบอยากจะเขวี้ยงถ้วยชาในมือไปหาอยู่แล้ว....
“โอกาสมาแล้วนะรีไวล์... มัดใจเอเลนให้อยู่หมัดเลยนะ!! ” สตรีใส่แว่นหยุดหัวเราะ เธอหันมามองหน้าเพื่อนชายด้วยสีหน้าที่จริงจัง ...เธอยิ้มมุมปากเล็กน้อย...สายตาของเธอดูเชียร์นายน้อยรีไวล์อย่างเต็มที่ “ร....รู้แล้วน่า...” เด็กหนุ่มตอบด้วยสีหน้าที่ขวยเขินจนหน้าแดงก่ำ…พลางนึกถึงคำพูดของฮันซี่ที่พูดกับเขาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
ฉันจะทำให้หัวใจของเอเลนมาเป็นของฉันให้ได้...... ฉันจะไม่พลาดแน่นอน..
.
.
.
.
.
.
.
.
ชายหนุ่มเรือนผมสีน้ำตาล กลับมาถึงห้องของตัวเอง ร่างบางพิงผนังใกล้ๆของประตูพร้อมกับถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะกดเปิดสวิตซ์ไฟที่อยู่ข้างๆ ..ไฟในห้องสว่างขึ้น..ชายหนุ่มเดินมาที่ข้างๆเตียงแล้วถอดเสื้อผ้าทีละชิ้น...ทีละชิ้น จนร่างกายเปลือยเปล่า ...มือบางคว้าหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่ที่ราวใกล้ๆตู้เสื้อผ้า แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป...
.
.
.
เอเลนเอื้อมมือไปเปิดฝักบัวอาบน้ำ....สายน้ำที่ไหลออมจากฝักบัวโดนแผลที่หน้าผากของชายหนุ่ม... “อ..อูย..”เอเลนรู้สึกแสบแผลเล็กน้อย....พลางนึกถึงเรื่องในวันนี้ที่เกิดขึ้นกับตัวเขา...
ฉันทำอะไรผิด?...... พวกนายเกลียดฉัน? ......มิคาสะคบกับแจน? ...... มือของมิคาสะบาดเจ็บ? ..... เพราะอะไรกัน?
ชายหนุ่มเริ่มเรียบเรียงเรื่องราวทั้งหมด...ตั้งแต่มือของมิคาสะ...เธอบาดเจ็บตั้งแต่ตอนไหนกัน ตอนที่ล้างจานหรอ...ไม่น่าใช่...ตอนนั้นก็เห็นๆอยู่ว่า เธอยังสามารล้างจานได้อย่างสบายๆ..แล้วตอนไหนกันนะ ตั้งแต่กลับมาเขาก็ยังไม่ได้เจอมิคาสะเลย...เมื่อนึกถึงมิคาสะ..เขาก็นึกขึ้นได้
อ๊ะ!! ฉันลืมนัดกับมิคาสะซะสนิทเลย....
ทันใดนั้นเด็กหนุ่มรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย ..ดันลืมไปซะสนิทเลยว่านัดจะไปจ่ายตลาดกับเธอซะดิบดี ...แต่ว่าป่านนี้มิคาสะคงไปจ่ายตลาดคนเดียวเรียบร้อยแล้ว
ไว้มีโอกาส ค่อยไปขอโทษแล้วกัน....
ชายหนุ่มดวงตาสีมรกตเอื้อมือไปปิดฝักบัวแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่ที่ราวในห้องน้ำ ...เอเลนนำผ้าเช็ดมาผูกไว้ที่เอว..แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำโดยที่ท่อนบนเปลือยเปล่า...
“อ๊ากกกกกก!!!!!!!! นายน้อย!!!!!!”
เอเลนตกใจสุดขีดเมื่อเห็นนายน้อยของตนนั่งกอดอกอยู่บนเตียง โดยมีกล่องปฐมพยาบาลวางอยู่ข้างๆ....ดวงตาคู่คมมองมาที่เอเลนที่เปลือยท่านบนตั้งแต่หัวจรดเท้า....ผิวขาวอมชมพูเนียนละเอียดแต่มีรอบบอบช้ำเล็กน้อย.... ร่างกายบอบบาง ....เอวคอดเล็กน้อย...มีกล้ามเนื้อตามช่วงไหล่และหน้าท้องจางๆ เพื่อให้สมกับรูปร่างของชายหนุ่มวัย 25 ปี ....ในตอนนี้ผิวพรรณเปียกน้ำเล็กน้อยดูเย้ายวน... จนคนที่นั่งมองอยู่แทบจะอดใจไม่ไหว.... “นายน้อย..มาทำอะไร..ในห้องของผมครับ” เอเลนอายซะจนหน้าแดงก่ำ อายที่นายน้อยที่ตนแอบรักโดยไม่รู้ตัวจ้องมองด้วยสายแวววาวแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน......
“ฉันมาทำแผลให้นาย แผลแบบนี้อาจจะอักเสบได้นะ...” เด็กหนุ่มเว้นวรรคคำพูดครู่หนึ่ง... รีไวล์เดินเข้ามาใกล้ชายหนุ่มที่กำลังเปลือยท่อนบนอยู่ตรงหน้า....ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ....ใกล้ซะจนได้ยินเสียงลมหายใจของอีกฝ่าย... ก่อนจะเอ่ยคำต่อไป.. “ ฉันเป็นห่วงนายนะ...” เอเลนรู้สึกเหมือนหยุดหายใจไปชั่วขณะ..... ใบหน้าหวานร้อนผ่าว สีหน้าแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด....เอเลนอึ้งอยู่พักหนึ่งกับคำพูดของนายน้อย...ที่ตนรักและเทิดทูนยิ่งกว่าสิ่งใด....
คุณเป็นห่วงผม....ด้วยหรอครับ.....
“มานั่งบนเตียงสิ..... ฉันจะทำแผลให้...” เด็กหนุ่มผละตัวออกห่าง....มือแกร่งฉวยจับมือของเอเลนแล้วพาเดินมาที่เตียงคู่ในห้อง.... โดยปกติแล้วเมื่อก่อนอาร์มินจะนอนห้องเดียวกับเอแลนจึงเป็นเตียงคู่ แต่ปัจจุบันนี้อาร์มินได้ขึ้นเป็นท่านฑูตจึงไปทำงานและพักอยู่ที่ชั้น 5 ทำให้เอเลนต้องนอนคนเดียว....
เด็กหนุ่มเริ่มลงมือทำแผลโดยกันล้างแผลด้วยแอลกอฮอลล์ เขานำสำลีมาชุบแอลกอฮอลล์ในขวดยา...เด็กหนุ่มร่างเล็กเขยิบตัวเข้ามาใกล้ๆชายหนุ่มที่เปลือยท่อนบนนั่งอยู่ข้างๆ....ใกล้มาก...ใกล้ซะจนแผงอกของทั้งสองแทบจะทาบกันได้.... มือแกร่งของเด็กหนุ่มวางทาบต้นขาอ่อนช้อยของเอเลนอย่างบางเบา.....
อึก!!!
ชายหนุ่มสดุ้งเล็กน้อยที่ได้รับการสัมผัสจากนายน้อยรีไวล์..... เอเลนหน้าแดงขึ้นไปอีก ..เขานั่งอยู่เฉยๆโดยให้นายน้อยรีไวล์ทำแผลให้.... ในห้องนี้เงียบสงัด...ไร้ซึ่งเสียงใดที่เอื้อนเอ่ยจากทั้งสองคน..บรรยากาศอึมครึมขึ้นเรื่อยๆ...จนกระทั่ง..
“เอเลน..... นายคิดยังไงกับฉัน...”
!!!!!!!!
เอเลนอ้าปากค้าง...เมื่อได้ยินคำถามของนายน้อยรีไวล์....ถามออกมาอย่างกะทันหัน... ทำชายหนุ่มคิดอะไรไม่ทัน ใบหน้าหวานดูกระวนกระวาย ....ดวงตาสีเขียวเบิกว้างด้วยความตกใจ ....ไมรู้จะตอบยังไงดีเพราะแม้แต่เขาเองยังไม่รู้ใจตัวเอง...
“ท....ทำไมจู่ๆ ....นายน้อย ถ...ถึงถามผม บ....แบบนี้ล่ะครับ !!!” เอเลนพูดตะกุกตะกัก พลางมองใบหน้าของเด็กหนุ่ม...ที่กำลังจดจ้องอยู่กับการทำแผลบนหน้าผากของเขาด้วยสีหน้าตั้งใจ.....แต่เหมือนไม่ได้ใส่ใจกับคำถามที่เขวเพิ่งถามไปเมื่อครู่..
เขาตั้งใจถามเราจริงๆรึเปล่าเนี่ย....หรือแค่ล้อเล่น......
“ฉันรักนาย เอเลน.....” เสียงทุ้มเรียบเอ่ยกล่าวด้วยสีหน้านิ่งเรียบเหมืนดั่งเคย แต่ครั้งนี้แฝงความอ่อนโยนเข้าไปด้วยเล็กน้อย เอเลนรู้สึกเหมือนถูกมนสะกดอีกครั้ง ...ความรู้สึกประหลาด...จะว่ากลัวก็ไม่ใช่จะว่าดีใจก็ไม่เชิง.... คำพูดของชายหนุ่มที่เคยแอบเพ้อฝัน.... ได้มาได้ยินกับหูจริงๆ....หัวใจเต้นตึกตักๆไม่เป็นจังหวะ...รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่ไม่สามารถหายใจได้ทั่วท้อง....ชายหนุ่มพยายามถามกับตัวเองให้แน่ใจว่านี่ไม่ใช่ความฝัน..... “แล้วนายล่ะ.... คิดยังไงกับฉัน”.. เด็กหนุ่มถามอีกครั้ง.. ดวงตาสีเทาหรี่ลงเล็กน้อย...ทำแผลไปสลับกับมองหน้าพ่อบ้านหนุ่มหน้าหวานซึ่งใบหน้าสับสอย่างเห็นได้ชัด..
“ค...คือว่าผม...”
“นายยังไม่จำเป็นต้องตอบฉันก็ได้....”เด็กหนุ่มพูดตัดบท สีหน้านิ่งเรียบส่งสายตาที่อ่อนโยนมายังชายหนุ่ม มือแกร่งใช้ฝ่ามือจับข้างแก้มของเอเลนเบาๆ นิ้วโป่งลูบไปมาที่แก้มนุ่มที่ขึ้นเป็นสีแดงสด...ในตอนนี้ดวงตาสีมรกตดูเลือนลอย... ดวงตาที่เคยมีความมุ่งมั่นตอนนี้กลับเปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคน เหมือนลูกแมวน้อยที่กำลังถูกเกาคางคนเคลิ้ม....
ขั้นตอนสุดท้ายของการทำแผล.... มือแกร่งแปะปลาสเตอร์ที่หน้าผากของเอเลน เบาๆ...โดยกลัวว่าคนที่รักจะเจ็บ... เขารู้สึกตัวได้อย่างประหลาด ปกติแล้วเขาไม่ใช่คนที่ทำไรเบามือและไม่เคยอ่อนโยนกับใครมาก่อน....ไม่เคยทำแผลให้ใคร...และไม่เคยบอกรักใคร.... แต่กับเอเลน เขาทำได้ทุกอย่าง...
...ทุกอย่างแม้ว่าจะเป็นชีวิต....
“เมื่อไรที่นายพร้อมนายค่อยบอกฉันก็ได้ .... ฉันรอได้เสมอ จำไว้นะเอเลนว่าฉันคนนี้...รักนาย และนายอย่าคิดว่านี่เป็นคำล้อเล่นหรืออารมณ์ชั่ววูบของฉัน... มันเกิดขึ้นมานานแล้ว และฉันไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้ให้ใคร..ความรู้สึกนี้.... ฉันมีให้นายคนเดียวเอเลน....” เมื่อพูดจบ เด็กหนุ่มผู้ที่ใครๆเรียกว่านายน้อยก็ประกบริมฝีปากหนาลงที่หน้าผากของเอลน ....นายน้อยรีไวล์เก็บอุปกรณ์ต่างๆเข้ากล่องปฐมพยาบาลตามเดิม...เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมเดินไปที่หน้าประตู...ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องมองแผ่นหลังกว้างของนายน้อย....ใบหน้าคมเข้มหันกลับมาสบตา....สีหน้านิ่งเรียบที่แอบแฝงไปด้วยความอ่อนโยนพูดประโยคสุดท้ายก่อนออกจากห้องไป... “ฉันจะรอคำตอบของนาย .... ฝันดีนะ เอเลน”...
!!!!!!!!!
เอเลนถึงกับต้องอึ้ง! เมื่อได้เห็นนายน้อยรีไวล์.....
.
.
.
.
.
ยิ้ม.......
เขายิ้มให้ฉัน รอยยิ้มที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน.....
ชายหนุ่มเดินไปหยิบกางเกงขาสั้นสำหรับใส่นอนมาสวมแล้วนำผ้าเช็ดตัวที่ใช้เมื่อครู่ไปตากไว้ที่ราวในห้องข้างๆตู้เสื้อผ้า แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม พลางครุ่นคิดคำพูดของนายน้อยรีไวล์ที่พูดกับเขาเมื่อครู่....ก่อนจะหลับใหลเข้าสู่ห้วงนิทรา....
.
TBC
.
.
TBC
.
-////- เขิน
ตอบลบ-////- เขิน
ตอบลบอร๊ายยยย!!! O(≧∇≦)O เขิลลลล
ตอบลบฟินจุง